คุณอดุลย์ พรพจน์รนมาศ สัตวบาลและหนึ่งในทีมงานคัดเลือกและพัฒนาสายพันธุ์ไก่ชนของทางถาวรพัฒน์ฟาร์ม กล่าวว่า ปัจจุบันไก่ชนที่นิยมจะเป็นไก่ไทยสายป่าก๋อย ซึ่งไก่พม่าที่เคยนิยมกันมากแพ้ทาง ส่วนของที่ฟาร์มที่กำลังสร้างชื่อ มีเจ้าฉลามดำ และเสือเตี้ย ทั้ง 2 ตัวเป็นไทย-ไซ่ง่อน หรือลูกผสม ไก่ไทยกับไก่เวียดนาม และ “สหเทพ” ไก่ชนลูกครึ่งพม่า-ไซ่ง่อน
คุณอดุลย์บอกว่า ส่วนตัวชอบลูกผสมไซ่ง่อนเพราะตีได้หนักหน่วงรุนแรง เม้จะค่อนข้างช้าไม่แพรวพราวแต่ได้ความสะใจ ซึ่งการเลือกไก่ชนสำหรับมือใหม่ ควรดูจากตัวเองเป็นหลักว่าเวลาเข้าไปที่สนามแข่งแล้วชอบดูไก่สไตล์ไหน ให้เลือกเลี้ยงไก่สไตล์นั้น หากยังแยกไม่ออกก็ควรศึกษาให้จำแนกได้เสียก่อนซื้อหาไก่ชนมาเลี้ยง ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่า อาชีพการเลี้ยงไก่ชน ค่อนข้างมีอนาคต แวดวงไก่ชนในปัจจุบันก็ค่อนข้างคึกคัก
“ลองเปรียบเทียบกับการเลี้ยงไก่ทั่วไปดูว่า ชั่งกิโลขายตัวหนึ่งได้ 300-400 บาท แต่ถ้ามีเหล่าหรือสายพันธุ์ที่ดีราคาจะเป็น 2,000-3,000 บาทได้ และหากมีฝีมือในการฝึกซ้อมและปั้นไก่เก่งก็อาจขายได้เป็นหมื่นบาท ซึ่งไก่ชนก็เหมือนมวยต้องมีการฝึกซ้อมและไก่ที่แพงต้องเคยเดิมพันที่สูงมาก่อน จึงต้องสร้างชื่อแล้วมีคนติดตาม ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เช่นกัน”
คุณอดุลย์แนะว่าหากมีทุนอาจเริ่มต้นด้วยไก่เหล่าที่มีชื่อเสียง ซึ่งไก่ชนที่ถาวรพัฒน์จำหน่ายก็จะเป็นไก่อายุ 10 เดือน ที่ผ่านการคัดตามขั้นตอนที่กล่าวมาแล้วทั้งสิ้น เสนอราคาอยู่ที่ตัวละ 80,000-90,000 บาท นอกจากนี้ที่ฟาร์มยังมีแม่ไก่รับประกันลูกเก่งพร้อมจำหน่ายในราคาตัวละประมาณ 30,000 บาท เป็นแม่ไก่ที่ผ่านการทดสอบแล้วว่าหากผสมกับไก่ตัวผู้ที่มีสไตล์การต่อสู้เหมาะสมจะให้ลูกไก่ชนคุณภาพอย่างแน่นอน
“ฟาร์มแห่งนี้เปิดมา 19 ปีแล้ว ปัจจุบันมีลูกค้าทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ รวมถึงชาวต่างชาติที่เป็นลูกค้าแวะเวียนมาซื้อเป็นประจำ โดยเฉพาะจากอินโดนีเซียเคยบินมาซื้อถึง 3 วันใน 1 สัปดาห์ ครั้งหนึ่ง 3-4 ตัว มากที่สุดประมาณ 10 ตัว ส่วนลูกค้าคนไทยก็มีเข้ามาดูทุกวัน ซึ่งเวลามาดูไก่ที่ฟาร์มเราก็จะถามก่อนว่าชอบสไตล์แบบไหน ตีหัว ตีตัว เราก็แนะนำเลยตัวนี้ครับ นำมาลองปล้ำให้ดู ถ้าไม่ชอบก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าชอบก็คุยตกลงราคากัน ส่วนมือใหม่เราจะมีหนังสือคู่มือเลี้ยงและดูแลให้ไปพร้อมกันด้วยเลย หรือโทรมาสอบถามปัญหาการเลี้ยงได้ตลอด”