“เหล่าไก่” นั้น สำคัญไฉน

หน้าแรก »การผสมพันธุ์ไก่ชน » “เหล่าไก่” นั้น สำคัญไฉน

นอกจากสายพันธุ์แล้ว  สิ่งที่ผู้เลี้ยงต้องพิจารณาก็คือ  “เหล่า”  หรือแหล่งที่หรือเชื้อสายของไก่ตัวนั้น  หากเป็นไปได้ต้องรู้ถึงพ่อแม่ว่ามีเชื้อสายมาจากไหน  มีประวัติการชนเป็นอย่างไร  เพราะลักษณะการชน  เชิงชน  ความเก่งกาจ  รวมทั้งถึงหัวจิตหัวใจความเป็นนักสู้  เป็นลักษณะที่ถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม  จึงเป็นที่มาของไก่ชนราคาแพงในปัจจุบัน  เพราะผู้ซื้อก็ต่างมุ่งหวังว่า  ลูกไก่ที่เพาะออกมาจะมีความเก่งเช่นเดียวกับเหล่าของมัน  ซึ่งผู้เพราะเลี้ยงไก่ชนก็ให้ความสำคัญในเรื่องของเหล่าและสายพันธุ์พอ ๆ กัน

อย่างความนิยมไก่ชนในปัจจุบัน  ผู้เลี้ยงส่วนใหญ่จะพัฒนาเป็นลูกผสมที่มีสายเลือดไปทาง  ป่าก๋อย+ไซ่ง่อน  ทั้งนี้เพื่อดึงลักษณะเด่นของทั้งสองพันธุ์ออกมา  เพราะโดยทั่วไปแล้วไก่ป่าก๋อยเป็นไก่ที่ปากเร็ว  กัดตี  จับตี  จับตรงไหนตีตรงนั้น  กัดบ่าตีตัว  แต่ทว่ามีข้อด้อยเรื่องของโครงสร้าง  เป็นไก่กระดูกเล็ก  เมื่อถูกคู่ต่อสู้ตีจะยุบเร็ว  ดังนั้นต้องนำไซ่ง่อน  ซึ่งเป็นไก่กระดูกใหญ่  โครงสร้างดี  ตีแรง  ตีเจ็บ  เข้ามาผสม  ก็ทำให้ลูกที่ออกมามีลักษณะดี  โครงสร้างดี  มีเชิงชนดี  ครบเครื่อง  เป็นไก่ชนตามที่ผู้เลี้ยงต้องการ

ยกตัวอย่าง  “มณีแดง”  ซึ่งเป็นไก่ชนที่ดีเดิมพันรวมสูงสุดถึง  22  ล้านบาท  ก็เป็นไก่ชนลูกผสม  ป่าก๋อย+ไซ่ง่อน  เช่นกัน  เป็นไก่ชนที่ดังมาก  ถือเป็นเบอร์  1  ของไทยในขณะนี้เลยก็ว่าได้  เริ่มแรกไก่ตัวนี้อยู่ที่จังหวัดมหาสารคามแล้วนำมาชนที่สนามชนไก่มหาลาภ  โดยชนะเงินเดิมพันไป  200,000  บาท  แต่เป็นการชนะที่ค่อนข้างสวยงาม  ซุ้มจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจึงขอซื้อไปในราคาประมาณ  500,000 บาท  จากนั้นได้นำไปชนกับไก่ดังจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่สนามเทิดไท  ซึ่งเดิมพันรวม  22 ล้านบาท  โดยชนชนะไปในยกที่  2  เท่านั้น  ทำให้เวลานั้นมณีแดงเป็นไก่ที่ดังมาก  และลูกของมณีแดงก็เป็นที่ต้องการมากด้วยเช่นกัน

ทางซุ้มจำหน่ายลูกของมณีแดง  อายุ  2-3  เดือน  ราคาคู่ละ  13,000  บาท  ผู้ที่ต้องการต้องจองล่วงหน้ากัน  1-2  เดือน  ซึ่งมณีแดงเอง  นอกจากเป้นไก่ชนที่เก่งแล้ว  ยังให้ลูกที่ดีด้วย  ขณะนี้ก็เริ่มมีลูกของมณีแดงออกชนตามสนามต่าง ๆ และชนะบ้างแล้ว  ก็ยิ่งทำให้เป้นที่ต้องการมากขึ้น  คาดว่าทางซุ้มสามารถขายลูกของมณีแดงได้เดือนละหลายแสนบาท  เพราะพ่อไก่ตัวหนึ่งสามารถผสมกับแม่ได้ถึง  10  ตัว / เดือน  ดังนั้นจะได้ลูกประมาณ  70  ตัว /  เดือน  เป็นอย่างต่ำ  หากจำหน่ายคู่ละ  13,000  บาท  จะทำให้มีรายได้ประมาณ  455,000  บาท / เดือน  เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าผู้เพาะเลี้ยงไก่ชนส่วนใหญ่ต่างให้ความสำคัญกับเหล่าไก่อย่างมาก

อย่างที่ “ไร่แสงดาว”  ได้ซื้อไก่ชนตัวหนึ่งมาจากชาวบ้านในจังหวัดสระแก้ว  ซึ่งเป็นไก่ชนที่เลี้ยงไว้ใต้ถุนบ้าน  ตอนเล็ก ๆ ปล่อยหากินในไร่มันสำปะหลัง  แต่ทว่าซื้อมาในราคา  150,000  บาท  เพราะเห็นฝีเท้าแล้วว่า  เป็นไก่ที่ตีหนัก  ตีแรง  ตีคู่ต่อสู้ทีเดียวหลังปูดบวมออกมาเลย  ผู้เพาะพันธุ์มองว่าหากนำมาชนกับไก่สายพันธุ์พม่า  ตีเหมาะ ๆ ไม่เกิน  10  ที  พม่าสู้ไม่ได้อย่างแน่นอน  และถ้าเลี้ยงดี ๆ ตีเดิมพันหลักล้านได้เลยทีเดียว

แต่นอกจากเรื่องของฝีเท้าแล้ว  สิ่งสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจซื้อมาในราคาถึง  150,000 บาท  เป็นเพราะว่า  เมื่อสืบกลับไปพบว่าไก่ตัวดังกล่าวเป็นลูกหลานของไก่ไซ่ง่อนที่ซีพีนำมาพัฒนาพันธุ์ไก่ของไทย  เมื่อหลายปีก่อน  และเป็นตัวที่มีประวัติการชนที่ดีด้วย  จึงเป็นเหมือนกับการซื้อเหล่าของตัวเองกลับคืนมา รู้แน่ชัดว่าเหล่าดี  ฝีเท้าดี  จึงมีราคาแพง  ตอนนี้ดูแค่เพียงว่าจะให้ลูกออกมาเก่งด้วยหรือเปล่า  เพราะตอนซื้อมากำลังจะถ่ายขนพอดี  จึงนำมาใช้เป็นพ่อพันธุ์ก่อน  กว่าจะถ่ายขนแล้วเสร็จใช้เวลา  6-7  เดือน  ซึ่งลูกชุดแรกก็โต  เริ่มนำมาครอบสุ่ม และทดสอบฝีเท้าได้แล้ว  ถ้าออกมาดี  ให้ลูกเก่ง  ก็จำหน่ายลูกไก่คู่ละ 5,000 บาท  ได้  20-30 คู่  หรือขายไก่หนุ่มสัก  10-20  ตัว  ก็ได้ทุนคืนแล้ว

สิ่งที่ทำให้ต้องให้ความสำคัญกับเหล่าของไก่ชน  ก็เป็นเพราะว่าการเพาะไก่ชนต้องระวังเรื่องหัวจิตหัวใจของไก่ด้วย  ฝีเท้าสามารถทดสอบหรือปล้ำดูได้ไม่ยาก  แต่ทว่าหัวจิตหัวใจจะรู้ก็ต่อเมื่อนำไปออกชนแล้วเท่านั้น เมื่อก่อนที่ไร่แสงดาวเคยซื้อพ่อไก่ตัวหนึ่งมา  เป็นไก่ที่เชิงชนดี  ตีเก่งมาก  ราคาตัวละ 200,000  บาท  เอามาทำเป็นพ่อพันธุ์  ซึ่งก็ได้ลูกออกมาแล้วนำมาออกชน  ซึ่งก็ตีดี  เป็นต่อคู่ต่อสู้ถึง  10  ต่อ  1  แต่ทว่าตีไปตีมา  เอาคู่ต่อสู้ไม่ลง  ก็ยอมแพ้ไปเองเสียดื้อ ๆ ทำให้ต้องโละลูกพันธุ์ของไก่ตัวนี้ทิ้งไปทั้งหมด  จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องให้ความสำคัญกับ  “เหล่า”