การสร้างฟาร์มไก่ชนนั้น จำเป็นต้องสร้างให้ถูกแบบแปลนที่ถูกต้องและมีความแข็งแรงคงทน สามารถเลี้ยงไก่ชนได้นานหลายปี อาจลงทุนสูงแต่เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จก็ต้องยอมลงทุนสร้างฟาร์มไก่ชนให้ถูกแบบมาตรฐานตามสภาพแวดล้อมของเมืองไทย
โดยลักษณะของ ฟาร์มไก่ชน ที่ดีควรมีลักษณะดังนี้
1 สามารถป้องกันแดด ลม และฝนได้เป็นอย่างดีดี
2 สามารถป้องกันศัตรูต่างๆได้ดี เช่น นก หนูนา แมว สุนัข ได้ เป็นต้น
3 รักษาความสะอาดได้ง่าย โดยลักษณะที่ตั้งฟาร์มไก่ชนควรเป็นเนินลาด น้ำไม่ขังแฉะ พื้นที่รกรุงรัง ทั้งนี้เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องกลิ่น พื้นคอกแฉะ แมลงวันรบกวน ไก่สกปรก และโรคระบาด
4 ที่ตั้งโรงเรือนควรอยู่ห่างจากบ้านคนพอสมควรเพื่อสุขอนามัยและไม่ควรตั้งโรงเรือนอยู่ทางต้นลมของบ้านเพราะกลิ่นขี้ไก่อาจจะไปรบกวนเพื่อนบ้านได้
5 ควรเป็นแบบที่สร้างได้ง่ายราคาถูกใช้วัสดุก่อสร้างที่หาได้ภายในท้องถิ่นนั้นๆ
6 ในกรณีที่ ฟาร์มไก่ชน หลายๆหลังอยู่ด้วยกัน การจัดการไม่ควรให้เป็นฟาร์มแฝดควรเว้นระยะห่างของแต่ละฟาร์มไม่น้อยกว่า 10 เมตรทั้งนี้เพื่อให้มีการระบายอากาศที่ดีขึ้นและความชื้นที่ดีควรมีอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นสำหรับไก่ชน แต่ละโรงเรือนในฟาร์มจะไม่ปะปนกัน เพื่อใช้ในการเลี้ยงไก่ชนมีอยู่หลายสายพันธุ์ โดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ความยากง่ายทุนและวัสดุอุปกรณ์ที่มีอยู่ในท้องถิ่นนั้น
ฟาร์มไก่ชน ในประเทศไทยมีรูปแบบต่างๆดังต่อไปนี้
โรงเรือนแบบเพิงหมาแหงนจัดเป็นฟาร์มไก่ชนที่สร้างได้ง่ายสุดๆ เพราะไม่สลับซับซ้อนลงทุนน้อย แต่มีข้อเสียคือช่วงมรสุมหนักฝนอาจจะสาดเข้าไปได้ ฟาร์มไก่ชน แบบนี้ไม่ค่อยมีความคงทนเท่าที่ควรเนื่องจากถูกฝนและแดดเป็นประจำ
การสร้าง ฟาร์มไก่ชน แบบหน้าจั่ว โรงเรือนแบบหน้าจั่วนั้นสร้างได้ยากกว่าโรงเรือนแบบเพลิงหมาแหงนเพราะต้องพิถีพิถันและประณีตในการก่อสร้าง ดังนั้นค่าวัสดุอุปกรณ์และค่าแรงงานในการก่อสร้างที่สูงกว่าโรงเรือนแบบเพลิงหมาแหงน แต่มีข้อดีคือสามารถป้องกันแดดและฝนได้ดี
โดยเปรียบเทียบระหว่างโรงเรือนแบบเพลิงหมาแหงนและแบบหน้าจั่ว
โรงเรือนแบบหน้าจั่ว สร้างได้ยากกว่าโรงเรือนแบบทรงเพลิงหมาแหงน ถ่ายเทอากาศภายในได้ดี ฟาร์มไก่ชนแบบหน้าจั่วจะเย็นกว่าแบบเพลิงหมาแหงน
แต่งโรงเรือนแบบเพิงหมาแหงนจะดีกว่าแบบหน้าจั่วตรงประหยัดระยะเวลาในการก่อสร้าง และประหยัดเงินทุน แต่ข้อเสียคือช่วงพายุมรสุมเข้าอาจทำให้ภายในโรงเรืองเปียกแฉะ
การสร้างฟาร์มไก่ชนหลังจากที่ได้มีการศึกษาถึงลักษณะและรูปแบบแล้ว ต้องตัดสินใจเลือกรูปแบบที่เข้ากับภูมิประเทศ อากาศ และที่สำคัญคือกำลังเงินเท่าที่ไหว อย่าฝืน หลังทำกำไลจากการเลี้ยงไก่ชนได้ค่อยๆพัฒนาขยับขยายต่อไป