เจาะลึก วิธีเลี้ยงแบบเซียนไก่ชนใต้

หน้าแรก »ไก่ชนใต้ » เจาะลึก วิธีเลี้ยงแบบเซียนไก่ชนใต้

เดิมทีหากย้อนอดีตไปเมื่อ 7-10 ปีที่แล้ว ไก่ภาคใต้ จะเป็นที่รู้จักกันในวงแคบๆหรือรู้จักกันเฉพาะทางภาคใต้ และจะไม่เป็นที่รู้จักหรือยอมรับในวงการไก่ หรือไก่ชนของทางภาคอื่นๆ เพราะจะไม่มีสื่ออย่างเช่น นิตยสารไก่ชนต่างๆเป็นตัวเผยแพร่ให้รู้ถึงความจริง และความเป็นมาของ ไก่ชนใต้

 

ลีลาเชิงเฉพาะตัวของไก่ชนใต้

ปัจจุบันการคัดไก่มาเลี้ยงจะพิถีพิถันกับเชิงชนของ ไก่ชนใต้ มากขึ้น นักเลงไก่หัวอนุรักษ์เชื่อว่าไก่ชนปักษ์ใต้มีลีลาเชิงชนโดดเด่นตามสายพันธุ์ จึงพัฒนาไปตามเชื่อว่า ไก่ชนใต้ แทบทั้งหมดมีเชิงชน จิกหัว หู กัดตีไม่เลือกที่ แต่ทุกวันนี้ผู้เลี้ยงไก่จะคัดเลือกไก่ที่มีแววเก่งมาฝึกออกกำลังและซ้อมเพื่อวิเคราะห์ลีลาชั้นเชิงที่ถ่ายทอดมาตามสายพันธุ์ขณะเดียวกันก็จะมีความถนัดของไก่แต่ละตัวที่เป็นไปตามสัญชาตญาณการต่อสู้ ไม่สามารถฝึกฝนกันได้

 

 

“ไก่ชนใต้ มีพื้นฐานที่ดีในเรื่องใจสู้ เฉลียวฉลาดไหวพริบดี มีลีลาหลอกล่อ หลบหลีก เอาตัวรอดในสถานการณ์คับขันได้ดี” จึงควรซ้อมไก่เพื่อดูว่าไก่ชนแต่ละตัวนั้นมีเชิงชนแบบไหน และมักจะแพ้ทางเชิงไก่แบบไหน จึงจะฝึกฝนความเก่งไปตามความถนัด เพิ่มจุดแข็งและแก้ไขจุดด้อย ซึ่งจะทำได้มากหรือน้อยก็จะจำกัดตามความสามารถของไก่ชนนั้นด้วยหลายคนยังไม่เข้าใจโดยเฉพาะมือใหม่คิดว่า ไก่ชนใต้ จะเหมือนกันหมดความจริงแล้ว ไก่ชนภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นไก่สายพันธุ์แท้หรือไขว้ผสมเพื่อให้สรีระร่างกายสูงระหงมากขึ้น ดูเชิงถนัดของไก่ ดูจุดอ่อน สังเกตว่าปล้ำซ้อมกับไก่เชิงไหนแล้วมีความได้เปรียบ สามารถแก้ทางไก่เชิงใดได้ดีทำให้เป็นประโยชน์กับการเปรียบไก่เพื่อให้มีโอกาสชนะมากขึ้น

 

ไก่ปักษ์ใต้ต้องฝึกออกกำลังกายเพื่อสร้างพื้นฐานที่ดีในเรื่องร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง จิตใจนักสู้และความอดทนจะเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนช่วงไก่อายุ 4-6 เดือน เมื่อเลือกมาฝึกซ้อมแล้วควรมีการพัฒนาให้เก่งตามทางที่ถนัด หลักการอย่างเดียวไม่อาจสรุปได้ว่าไก่มีจะมีเชิงชนอย่างไร ความฉลาดของ ไก่ชนใต้ เอาตัวรอดเก่งอาจมีหลายเชิงชนก็ได้ไก่ปักษ์ใต้อาจมีลักษณะเป็นไก่เชิงบนสลับล่างมีอาวุธหลากหลายกว่าย่อมได้เปรียบสามารถกอด มุด มัด สาดแข้ง และเปลี่ยนเป็นเชิงตีบนได้เมื่อเห็นจังหวะเหมาะก็จะได้เปรียบเชิง

 

 

นอกจากลีลาสาดแข้งตามถนัดแล้ว ไก่จะเดินเร็ว มัดเก่ง เข้าปีกบิดคอซ้ายทีขวาที เอาอกทับไหล่คู่ต่อสู้ หัวกดกลางหลัง ดันกระทุ้งปีกมัดคู่ต่อสู้พร้อมกับตีถี่ๆ บริเวณสีข้าง หลัง และปั้นขา ซึ่งจะมีผลให้ฝ่ายตรงข้ามอ่อนแรงลงเรื่อยๆ ไม่ยอมให้คู่ต่อสู้ดิ้นหลุดไปได้ แต่ถ้าเจอเชิงบนจัดไก่ภาคใต้อาจสู้เชิงไม่ได้ ต้องเน้นตีแม่น ตีหนัก ตีเจ็บปวด ไก่พวกนี้ต้องจับตาให้ดี จะเป็นไก่เก่งที่ไม่ท้อถอยและไม่ยอมแพ้ใคร เมื่อต่อสู้กับไก่ชนรูปร่างพอกัน ไม่เสียเปรียบเรื่องความสูงมากนัก ตีแม่นตีหนักพอกัน แน่นอนว่าไก่แต่ละตัวย่อมมีสไตล์ของตัวเอง เพียงแต่ถ้าไก่ตัวไหนฉลาดกว่า แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีกว่าย่อมได้เปรียบคู่ต่อสู้เลี้ยง ไก่ชนใต้ กล้าพูดได้เลยว่าไก่ชนใต้คือนักสู้ตัวจริง

 

การฝึกไก่ชนภาคใต้

1.เรียบรู้ประวัติไก่ชนใต้ ดูตั้งแต่พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ต้องมั่นใจว่าผลิตลูกได้สม่ำเสมอ

2.เมื่อลูกไก่ชนอายุได้ 5-6 เดือน หากไม่พิการ มีเชิงดี ก็ให้ดเริ่มขุน บำรุงทั้งอาหารและวิตามินต่างๆ เมื่อไก่ชนเริ่มมีร่างกายที่น่าเกรงขาม มีเสียงขันชัดเจน  ประมาณ 8-9 เดือน ก็นำไปลองปล้ำได้เลย โดยก่อนนำไปปล้ำจะต้องเก็บตัวไก่ให้อยู่ในสุ่มประมาณ 10 วัน จากนั้นเริ่มปล้ำได้ โดยซ้อมครั้งละ 20-25 นาทีต่อวัน เพื่อไม่ฝืนไก่จนเกินไป

3.เมื่อไก่ชนผ่านการซ้อมด้วยนวมไก่ ให้สังเกตดูท่าที ลักษณะการยืน การชน ดูความมั่นคงทางจิตใจไก่ นี่คือช่วงจังหวะเพิ่มพละกำลังให้อดทนต่อการกด การบังคับและเพื่อเปิดช่องทางให้ตีก่อน เป็นการทดสอบความเข้มแข็งถ้าจิตใจสูง อาจทำให้เกิดความท้อและเมื่อลงสนามมีโอกาสแพ้สูง

4.บำรุงไก่ เจ้าของควรบำรุงไก่ชนก่อนออกชน ซึ่งการบำรุงนี้เมื่อไก่ชนได้ผ่านการถูกตีมาบ้างแล้วจากการซ้อมก่อนหน้า ไก่ชนจะได้รับความบอบช้ำไม่ว่าจะเป็นส่วนปี คอ หน้า เจ้าของมีหน้าที่จัดอาหารบำรุงรวมทั้งทายา แล้วเลี่ยงการซ้อมแบบหนักๆ ไม่ต้องหักโหมมาก จากนั้นเตรียมพร้อมเพื่อลงสนามจริง แต่ถ้ายังไม่มั่นใจก็สามารถเพิ่มการไล่แข็งได้อีก เพราะสภาพร่างกายของไก่แต่ละตัวต่างกัน ความแข็งแกร่งก็ต่างกันไป

5.โอกาสได้เปรียบของไก่ชน เจ้าของไก่ชนมีลุ้นว่าจะชนะหรือไม่ โดยการเปรียบไก่ทั้ง 2 ตัว ว่ามีขนาดตัว อายุของไก่ ปลายตอ ปลายคอ และต้องรู้จักว่าไก่ตัวเองชอบตียังไงเพื่อจะได้ไม่เกิดการเสียเปรียบ นอกจากนี้หากเจ้าของสามารถอ่านเชิงไก่คู่ต่อสู้ได้ ก็จะมีโอกาสลุ้นมากขึ้น ที่สำคัญอย่าฝืนไก่เพราะถ้าเจอตัวที่โตกว่า แข็งกว่า ไก่เราต้องใช้พละกำลังเยอะกว่าจะตีเขาได้ เผลอๆโดนคู่ต่อสู้ดีจนหนีได้ง่ายๆ

 

จุดเด่นของไก่ภาคใต้

1.ใช้เดือยจัด และแม่นยำ
2.จู่โจมเป้าใหญ่ได้อย่างมืออาชีพ
3.จิกเก่ง จิกตีไม่เลือกที่
4.ครบเครื่อง ไก่ชนใต้ต่อสู้แบบชาญฉลาด

 

ลักษณะไก่ชนใต้ ที่ไม่ควรเลี้ยง

ไก่ชนภาคใต้ ที่มีลักษณะไม่ดีที่สามารถบอกได้ว่า ไก่ชนใต้ ตัวนั้นมีความบกพร่องในการต่อสู้ ขาดความอดทน มีความเป็นนักสู้น้อย ถ้านำลงสังเวียนการชนไก่มีโอกาสแพ้มากกว่าชนะ ซึ่ง ไก่ชนใต้ ที่มีลักษณะไม่ดีพอมีหลักสังเกตดังนี้

1. หัว : มีหัวโตกลมมีลักษณะเป็นไก่ไอคิวต่ำ ไม่รู้จักการแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้า เวลาตีมักจะตีเชิงเดียวตลอด

2. นัยน์ตา : ตาดำกลมใหญ่ ขอบตาหนา ชอบกลอกนัยน์ตา ลอกแลก ดูเป็นไก่ใจเสาะ

3. คิ้วบาง : เป็นคิ้วเปราะบาง คิ้วไม่คุ้มตามีโอกาสถูกแทงตาบอดได้ง่าย

4. หงอน : ไม่รัดกอดกระหม่อม มีสีซีดไม่แดงสดใส เพราะไม่แข็งแรง หรือเป็น ไก่หงอนรูตรงปลายหงอนซึ่งว่ากันว่าเป็นไก่ไม่มีสกุล จิตใจไม่แน่นอน หรือมีปลายหงอนมาตรงกับตาดำ เชื่อว่าไม่สามารถปกป้องตาตัวเอได้มักถูกตีตาบอดง่าย

5. ปาก : ไม่สมส่วนกับใบหน้า ยาวไปสั้นไป ปลายปากไม่งองุ้มเหมือนปากนกแก้ว ปากบน ปากล่างปิดไม่สนิท ขอบปลายปากไม่คม ทำให้จิกจับคู่ต่อสู้ไม่มั่น หรือไม่ติด มีโคนปากเล็ก บอบบาง ปากไม่มีร่องน้ำหมากแสดงว่าปากไม่แข็งแรง ทำให้ปากหักได้ง่าย

6. เหนียง : ใหญ่ และยานจะเป็นจุดอ่อนของ ไก่ชนภาคใต้ เพราะฝ่ายตรงข้ามจิกได้ง่าย เป็นเป้าหมายให้คู่ต่อสู้โจมตีสะดวก และแก้ไขได้ยาก

7. คอ : กระดูกคอเป็นปล้องห่างๆ ไม่ชิดแน่น ซอกคอห่างจากลำตัว ไม่แข็งแรง ขาดพลัง ถูกตีหัวได้ง่าย มีคอเป็นสองวงหรือคดสอง

8. หน้าอก : มีอกแคบ กระดูกอกคด แสดงว่าไม่แข็งแรง ขาดความอดทน ถ้าอกยานทำให้เสียเปรียบตอนเปรียบคู่

9. ลำตัว : มีลำตัวยาวเหมือนรูปฟัก เวลาเปรียบคู่เสียเปรียบไก่ยาวแบบ”จับสองท่อน” เพราะเขาจะสูงกว่า หรือมีลำตัวสั้นกลม เวลาตีต้องยืดเขย่งตี บินตีก็ต้องบินสูง ทำให้ตีไม่หนัก สูญเสียความรุนแรงเฉียบขาดในการตีปีก

10. กระดูกตรงบริเวณปีก : มีขนาดเล็กบาง กล้ามเนื้อแฟบ ทำให้บินไม่ดี

11. หลัง : แคบโก่งนูนเหมือนคนหลังค่อม หรือกระดูกสันหลังเหมือนหลังหัก ท่อนท้ายลำตัวแคบ แสดงว่าเป็นไก่ไม่แข็งแรง

12. สร้อย : สร้อยขาดเป็น ไก่ชนภาคใต้ ไม่มีสกุล จะสู้ไก่ที่มีสร้อยคอสร้อยหลังสมบูรณ์ไม่ได้

13. หาง : หางโค้งยาวเป็นไก่แจ้ เวลายืนยืดอกทำให้เหยียบหางตัวเอง หรือถูกฝ่ายตรงข้างเหยียบหาง ทำให้เสียหลัก

14. เดือย : ตอเดือยเล็ก ทำให้เดือยโค่นง่าย ทำให้เวลาไก่กระโดดตีเดือยจะไม่ถูกจุดสำคัญบนตัวคู่ต่อสู้

15. แข้ง : ยาวเก้งก้าง แข้งเป็นเหลี่ยมแข้งแห้ง เกล็ดบางนิ่มเกยกัน บนแข้งมีเกล็ดแพ้

16. นิ้วเท้า : นิ้วสั้น บิด งอ เก อุ้งเท้าบวม นูน เล็บสั้น แสดงว่ายืนไม่ดี ขาดความมั่นคง

 

บทความล่าสุด
11 เดือน ที่ผ่านมา
11 เดือน ที่ผ่านมา
11 เดือน ที่ผ่านมา
11 เดือน ที่ผ่านมา
11 เดือน ที่ผ่านมา